หน้าเว็บ

กลุ่มพนมนครานุรักษ์

วัตถุประสงค์หลักของกลุ่ม คือ การทำกิจกรรมที่เป็นการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพของประชาชน ชุมชน หรือ องค์กรภาคประชาสังคม โดยเฉพาะบทบาทของประชาชน ชุมชน หรือ องค์กรประชาสังคม ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการทรัพยากรท้องถิ่นและภูมิปัญญาท้องถิ่น

สำนักงาน เลขที่ 137 ถนนสุนทรวิจิตร ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครพนม 48000
โทร. 042 - 520214 มือถือ 085 - 2044085
ขอให้ชาวนครพนม คัดค้านการนำเอาพระธาตุพนม ไปประดับบนยอดหลังคาอาคารด่านศุลกากรนครพนม ที่สะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 3 จังหวัดนครพนม

วันจันทร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

เวรกรรม 3 เส้าระหว่างกรมชลประทานกับหนองญาติ และเงินไทยเข้มแข็ง 30 ล้านบาท

    มีผู้สงสัยในโครงการป้องกันและบรรเทาอุทกภัย / การขุดลอกอ่างเก็บน้ำหนองญาติ 
   มูลค่า 30 ล้านบาท  ว่า  โปร่งใสและคุ้มค่ากับเงินภาษีของประชาชนอย่างไร  
 นี่เป็นหนึ่งในโครงการภายใต้ปฎิบัติการไทยเข้มแข็ง  ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 
 สาขาทรัพยากรน้ำและการเกษตร  โดยมี กรมชลประทาน เป็นผู้ผลักดันโครงการ
 โดยตั้งข้อสังเกตเพื่อการตรวจสอบ กรมชลประทาน ดังต่อไปนี้
1. หนองน้ำหนองญาติ เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ พ.ศ 2468  จนกระทั่งปัจจุบัน

2. หนองน้ำหนองญาติ มีสถานะเป็นอ่างเก็บน้ำ ของ กรมชลประทาน ไปได้อย่างไรและแต่เมื่อไหร่
3. กรมชลประทาน ได้โอน หนองญาติ ไปให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น คือ อบต.หนองญาติ เป็นผู้ดูแล แต่ปี พ.ศ 2540 แล้ว  การเข้ามายุ่งเกี่ยวในการขุดลอกหนองญาติ ครั้งแล้วครั้งเล่า ด้วยความสัมพันธ์อันใด
4. การขุดลอกดินจากหนองน้ำแล้วนำดินที่ได้กลับมาถมหนองญาติอีก  มันเป็นปฎิบัติการ ประเภทใด เช่น การบำรุงฟื้นฟูหนองน้ำ หรือ การทำลายหนองน้ำ และมันเป็นหน้าที่อันใดของ กรมชลประทาน
5. การได้มาของหนองญาติ ที่มีบันทึกในใบใต่สวนว่า ซื้อมาจากผู้ขาย มีหลักฐานการซื้อขายและมีนส.3 เป็นหลักฐาน  ซึ่งรวบรวมโดยเจ้าหน้าที่ ที่เป็นผู้แทนกรมชลประทาน  เอกสารดังกล่าวมีจริงหรือไม่
   ถ้า กรมชลประทาน สามารถตอบคำถามทั้ง 5 ข้อนี้ได้  ก็ควรจะรับทราบด้วยว่า  ในเรื่องนี้ ยังเป็นข้อพิพาทที่ว่า " หนองญาติ นั้นเป็นที่สาธารณะ หรือ ที่ราชพัสดุ " ที่ยังอยู่ในการพิจารณาของศาลปกครอง ขอนแก่น อยู่  และศาลปกครอง ก็ได้ให้การคุ้มครองชั่วคราว โดยมีคำสั่ง ห้ามกรมธนารักษ์อนุญาตให้ผู้ใดเข้ามาใช้พื้นที่ในบริเวณ หนองน้ำ " หนองญาติ "  
ดังนั้น โครงการป้องกันและบรรเทาอุทกภัย / การขุดลอกหนองญาติ (ที่ฟังชื่อแล้วก็ไม่ค่อยสมเหตุสมผลกับงบ 30 ล้านสักเท่าไหร่ ) ซึ่งระบุว่า อธิบดีกรมชลประทาน เป็นผู้รับผิดชอบนั้น  ถ้าจะเดินหน้าต่อไป ก็บอกได้ว่า ไม่น่าจะเป็นผลดีมีประโยชน์แก่ กรมชลประทานหรือ รัฐบาลของนายอภิสิทธิ์เลย

วันพฤหัสบดีที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

โครงการภายใต้ปฎิบัติการไทยเข้มแข็ง จังหวัดนครพนม วงเงิน 2,674.17 ล้านบาท

นครพนมมีโครงการไทยเข้มแข็ง 9 โครงการ วงเงินอนุมัติ 2,674.17 ล้านบาท
โครงการสาขาทรัพยากรน้ำและการเกษตร ของกรมชลประทาน
ได้งบมากที่สุดถึง 1,400.03 ล้านบาท
เรามาดูกันว่า " โครจะเข้มแข็ง "
สาขาทรัพยากรน้ำและการเกษตร  ของกรมชลประทาน 
ได้รับวงเงิน 1,400.03 ล้านบาท
โครงการจัดหาแหล่งน้ำและเพิ่มพื้นที่ชลประทาน  ได้รับวงเงิน 1,118.23 ล้านบาท
ก็ให้ช่วยกันดูแลนะครับ  พื้นที่ของใครของมัน
โครงการป้องกันและบรรเทาอุทกภัย  ได้รับวงเงิน 30 ล้านบาท ( รับมาแล้ว 29.04 ล้าน ว่าแต่ว่า หนองญาติ เคยมีเหตุอุทกภัย งั้นหรือ )
งานขุดลอกอ่างเก็บน้ำหนองญาติ ตำบลหนองญาติ อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม ( ถ้าขุดลอกแล้วไม่บรรเทาอุทกภัย แล้วทำไปทำไม )
หนองน้ำที่ยังมีข้อพิพาทในศาลปกครองและศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ห้ามธนารักษ์อนุญาติผู้ใดเข้ามาใช้พื้นที่นี้อยู่
อันที่จริงกรมชลประทานก็โยนเผือกร้อน เอ๊ย โอนให้อบต.หนองญาติรับไปดูแลแทนตั้งนานแล้ว ยังจะหวนกลับมาอีกทำไมหนอ (มารับจ๊อบ นะสิ )
เท่าที่ติดตามดูเนื้อหาโครงการ ที่ผู้รับเหมาและคนงานเล่าให้ฟัง
มันเป็นงานขุดลอกแต่เอาดินกลับมาถมเป็นถนนและการตกแต่งภูมิทัศน์โดยถมดินเป็นรูปแผนที่กลางหนองน้ำ
 เฮ้อ ช่างกล้า นะ อย่างว่าแหละ เงินทองไม่เข้าใครออกใคร 
ศาลก็ศาล เถอะ


ดูเอา พี่น้องเอ๊ย เงินของเราทั้งนั้น
นี่แหละที่เขาว่า เรื่องดีดี ไม่  เรื่องจางราย ทำ


โครงการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ชลประทาน  ได้รับวงเงิน 156.79 ล้านบาท
ช่วยกันดูแลนะครับ บ้านใคร บ้านมัน เห็นอะไรมีพิรุธ ก็แจ้งด้วย


โครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำ    ได้รับวงเงิน 67.00 ล้านบาท
นี่ก็เช่นกัน ช่วยกันดูหนองน้ำบ้านใครบ้านมัน ด้วยนะครับ
ว่าแต่ว่า หนองญาติที่แสนจะทรุดโทรมและสมควรจะต้องฟื้นฟู
ทำไมถึงไม่มีรายชื่อในการอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำ กับเขาด้วย
มันน่าสงสัยมั๊ยหละ ท่านอธิบดีกรมชลประทาน 
โครงการปรับปรุงสิ่งก่อสร้างด้านแหล่งน้ำเพื่อการถ่ายโอนให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 
ได้รับวงเงิน 24.34 ล้านบาท
โครงการสำรวจและพัฒนาแหล่งน้ำบาดาล เพื่อสนับสนุนระบบน้ำดื่มสะอาดให้กับโรงเรียนทั่วประเทศ  ได้รับวงเงิน  3.68 ล้านบาท




d

วันศุกร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553