องค์พระธาตุพนม อายุกว่าพันปี
ถ้ามีคนมาขโมยแบบ ลอกแบบ หรือ ก้อบปี้ หรือ ทำซ้ำ
เราจะคิดค่าลิขสิทธิ์ทรัพย์สินทางปัญญาของ " ศิลปะพันปี " อย่างไรดี
ในเรื่องเงินทอง คงไม่มีปัญหา เพราะ กรมทางหลวง
เป็น 1 ใน 3 หน่วยงาน ที่ข้าราชการพนักงานลูกจ้าง อู่ฟู่มานาน
( กรมชลประทาน , กรมทางหลวง , กรมทางหลวงชนบท )
เราจะคิดค่าลิขสิทธิ์ทรัพย์สินทางปัญญาของ " ศิลปะพันปี " อย่างไรดี
ในเรื่องเงินทอง คงไม่มีปัญหา เพราะ กรมทางหลวง
เป็น 1 ใน 3 หน่วยงาน ที่ข้าราชการพนักงานลูกจ้าง อู่ฟู่มานาน
( กรมชลประทาน , กรมทางหลวง , กรมทางหลวงชนบท )
ยอดหลังคา อาคารด่านศุลการ ฯ ทางฝั่งประเทศ สปป.ลาว
ที่เห็นในวงกลม คือ รูปทรงพระธาตุพนมสีทอง ตามแบบเดิมเป๊ะ
เชื่อแล้วว่า กรมทางหลวง ยังจะเดินหน้าการนำ พระธาตุพนม
มาใช้ประดับตกแต่งยอดหลังคาอาคาร โดยไม่มีวันเปลี่ยนใจ
หลักฐานจากรูปทัศนียภาพ ก็เป็นรูปทรง " พระธาตุพนม "
แท่งเหล็ก ที่เห็นอยู่เบื้องหน้า จะตั้งเสียบ " รูปทรงพระธาตุพนม "
หรือ จะทิ่มแทงหัวจิตหัวใจ ผู้ใด ในอนาคต ก็ให้คอยติดตาม
รูปทรง พระธาตุพนม จะวางที่ยอดหลังคาอาคารด่านศุลกากร ฯ
เม็ดบัวหัวเสาใหญ่ ก็เป็นรูปทรงพระธาตุพนม ชัดๆ
นี่คือ การเล่นของสูง สิ่งเคารพศักดิ์สิทธิ์ โดยรู้เท่าไม่ถึงการ
สถาปนิก ผู้ไม่รู้จักที่สูงที่ต่ำ คนนี้ จะอยู่ในวงการได้ต่อไปหรือไม่ ?
ต้องขอแรงบรรดาสถาปนิกไทยทั้งหลาย ได้ช่วยกัน " ขับเขา ให้ออกวงการไปเสีย "
เสาใหญ่ ขนาบสะพาน ลอกแบบ " รูปทรงพระธาตุพนม "
ป้ายนี้บอกว่า สำนักสำรวจและออกแบบ กรมทางหลวง
เป็นผู้ออกแบบ โครงสร้างสะพานฯ โดยงบประมาณจากเงินภาษี ฯ
เมื่อ ประชาชนร้องเรียน ให้แก้ไขแบบให้มีความเหมาะสม
ก็เพิกเฉยแสดงว่า เขา " ปฏิเสธ การมีส่วนร่วมของประชาชน "
ตามที่มีบทบัญญัติ ในรัฐธรรมนูญ 2550
ถ้า กรมทางหลวง ยังมั่นใจจะเดินหน้าการนำเอา พระธาตุพนม
มาใช้ประดับหลังคา อาคารด่านศุลกากร ฯ เพื่อให้มีความสวยงาม
เพราะ กรมทางหลวง ตีราคา พระธาตุพนม เป็นแค่สัญลักษณ์ของจังหวัด
โดยไม่ได้คำนึงว่า เป็นสิ่งเคารพบูชาสูงสุดของชาวพุทธไทย-ลาว แล้วล่ะก็
เรา ก็จะฟ้อง " การละเมิด ทรัพย์สินทางศรัทธา " กับ กรมทางหลวง
โดยให้ ชาวพุทธทั้งประเทศช่วยกันคิดค่าเสียหาย จาก 3 กรณี ดังนี้
1. ค่าละเมิดพุทธศาสนา เพราะความไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง
2. ค่าละเมิดรัฐธรรมนูญ เพราะปฏิเสธการมีส่วนร่วมของประชาชน
3. ค่าละเมิดลิขสิทธ์ เพราะความสิ้นคิด กล้าลอกแบบอย่างหน้าไม่อาย
ส่วนการจะร้องเรียนไปยังกระทรวงวัฒนธรรม หรือไม่นั้น
ก็ต้องรอให้ ท่านรัฐมนตรี ฯ จัดการกับ " เรยา และแม่ชี "
ให้จบราบคาบเสียก่อน แล้วเราถึงจะดำเนินการ คิวต่อไป
ที่ว่า จะเป็นรัฐมนตรีคนนี้ หรือ คนใหม่ ก็ไม่เป็นไร
เพราะยังมีเวลาอีกตั้งหลายวัน ก่อนที่จะทำพิธีเปิดสะพาน แห่งนี้
คิดมากไปรึเปล่า
ตอบลบดีหรือเสียมากกว่ากัน ถ้าดีมากกว่าก็ให้เค้าใช้ไปเถอะเด็กมันจะได้ไม่ลืมกำพืชของมัน จะได้ไม่โตมาโง่ๆหัวกลวงๆ ถือซะว่า ศิลปะต้องก้าวไปข้างหน้าไม่ใช่เก็บในกรุเข้าหิ้ง ไม่ใช้ลักษณะศิลป์นี้ไปใช้โมเดิ้นก็จะเสียกว่าได้
ตอบลบที่จะต้องคิดมาก นอกจากชาวพุทธ ไทย-ลาว แล้ว ก็น่าจะเป็น กระทรวงวัฒนธรรม และ กรมศาสนา ครับ
ตอบลบงานศิลปะ ก็ไม่ยากไม่ง่าย หากแต่ต้องใช้ " คนที่ทำเป็น " ไม่ใช่ใครก็ได้ คำว่า " โง่สมองกลวง " นี่ น่าจะเป็น " คนแก่ " มากกว่า " เด็ก " ครับ เพราะสมองคนแก่นี่ ถ้ากระโหลกกะลาไปแล้ว ก็พัฒนาไม่ได้
ตอบลบ